การดูแลรักษาเครื่องประดับ

          เครื่องประดับเพชร เมื่อสวมใส่ไปนาน ๆ คราบเหงื่อไคลและไขมันจากผิวกายรวมทั้งฝุ่นละอองในอากาศจะติดเพชรไว้แน่น เนื่องจากคุณสมบัติของเพชรที่ดึงดูดคราบไขมันไว้ได้ดี โดยเฉพาะด้านล่างของเพชร (ที่เป็นแหลม ๆ) ที่อยู่ใกล้กับผิวหนัง อาจมีสิ่งสกปรกอุดแน่นเกาะเต็มไปหมด ทำให้เพชรขาดประกายเงางาม หรือมองดูเหมือนเพชรที่มีรอยตำหนิมากมาย 

ผู้ที่รักเพชร จึงหาเวลาดูแล หมั่นทำความสะอาดเพื่อให้เพชรดูใหม่ คงคุณค่าของเพชรแท้เอาไว้ ทางร้านขอแนะนำวิธีทำความสะอาดเพชรแบบง่ายๆ คือการใส่เพชรลงไปแช่ในน้ำยาล้างเครื่องประดับอย่างอ่อนๆ อาจจะเขย่าเบาๆ สักครู่ หรือทิ้งเอาไว้ให้คราบไขมันอ่อนตัวและหลุดออก ตกตะกอนนอนก้น

ไม่แนะนำให้ใช้ของแหลมคม เช่นไม้จิ้มฟัน แคะเขี่ยสิ่งสกปรก เนื่องจากการเกาะเพชรของตัวเรือนบางแบบมีความอ่อนอาจทำให้เพชรหลุดออกมาหรือเพชรพลอยอาจจะคลอนได้

แต่หากคราบติดแน่น แนะนำให้แช่น้ำยาให้นานขึ้น แล้วใช้แปรงสีฟันเก่า ปัดเบาๆ โดยเฉพาะตรงส่วนแหลมๆ ที่อยู่ด้านล่างตัวเรือน

นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำว่า ไม่ให้นำเพชรใส่สารเคมี หรือน้ำยาอะไรก็ตาม หรือแม้แต่น้ำ แล้วนำเพชรมาต้ม เพราะหากเผลอลืมดู เพชร พลอยอาจแตกออก และตัวเรือนที่เป็นทอง ทองขาว อาจจะไหม้เกรียมได้ แม้จะซ่อมแซมด้วยการชุบใหม่ตัวเรือนก็จะไม่เงางาม เพราะไหม้เข้าเนื้อสารเคมีหรือน้ำยาที่ต้มด้วยกันทำปฏิกิริยากันไปแล้ว

เรื่องตัวเรือนที่เกาะเพชรไว้ หมั่นดูแล คอยสังเกตว่ามีการสึกหรอเนื่องจากกรด เหงื่อ หรือสารเคมีที่เราอาจไปสัมผัส หรือหนามเตยเกิดเบี้ยวเพราะไปเกี่ยวกับอะไรแรงๆ หากหนามเตยหลุดออกให้ส่งผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซมทันที อย่าใส่ต่อเพราะเพชรพลอยอาจหลุดหายได้

กรณีที่พบบ่อยว่าเครื่องเพชรหาย เพราะถอดไว้แล้วห่อด้วยกระดาษทิชชู่เพราะกลัวเพชรเป็นรอย ไปเสียดสีกับของในกระเป๋าถือ ขอแนะนำว่าหากเกรงว่าเครื่องเพชรจะกระแทก ให้ห่อด้วยพลาสติกใสๆ แล้วรัดด้วยหนังสติ๊กจะปลอดภัยกว่า เพราะเรามักเผลอเวลาเคลียร์กระเป๋า เห็นเป็นกระดาษทิชชู่ก็มักจะขยำทิ้ง ไม่ยอมเปิดดูก่อน 

เครื่องเพชร เป็นของล้ำค่า เป็นของสูง มีเฉพาะแต่ขุนนางเท่านั้นที่ได้ใช้สอย ฉะนั้นต้องดูแลรักษาด้วยใจ เพื่อให้เครื่องประดับเพชร ส่องประกายแวววาว งดงามสมเป็นเครื่องประดับ ส่งเสริมบุคลิกของผู้ประสบความสำเร็จของท่านตลอดไป 

 

          หยก เป็นอัญมณีที่นับวันยิ่งหาได้ยาก หากเป็นหยกที่มีสีดี ๆ เช่นสีเขียวจักรพรรดิ์แล้ว เปรียบเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร

หยกมีค่าความเหนียวสูง แต่มีค่าความแข็งปานกลาง ดังนั้นจะทนทานต่อการขูดขีดได้น้อยกว่าพลอยเนื้อแข็ง

หากเราทำงานหนัก ๆ ที่ต้องใช้มือ เช่นเป็นช่างซ่อม นักกีฬา ชอบทำสวน ควรหลีกเลี่ยงการสวมแหวนหยกขณะทำงาน เพราะเครื่องมือที่เป็นเหล็ก โลหะบางชนิดอาจทำร้ายผิวของหยกได้

เรื่อง ของการทำความสะอาด ก็ปกติเหมือนกับเครื่องประดับทั่วไป คือล้างหรือแช่ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อนๆ แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าที่สะอาด และนุ่ม อย่านำผ้าที่มีฝุ่นมาเช็ดหยกเป็นอันขาด เพราะฝุ่นในอากาศมีค่าความแข็งใกล้เคียงกับหยก หากถูแรง ๆ อาจทำให้หยกด้านลงได้

หยกที่มีคุณภาพปานกลาง คือเนื้อไม่ค่อยสะอาด มีรอยร้าวเล็ก ๆ หรือด้านลงเนื่องจากการสวมใส่ แนะนำให้ใช้เบบี้ออย จะเป็นแบรนด์อะไรก็ได้จุ่มด้วยก้านสำลีแล้วเช็ดลงบนผิวหยกเบา ๆ ทิ้งไว้สัก 10 นาทีให้น้ำมันซึมเข้าไปในเนื้อหยก จะช่วยรักษาสภาพไม่ให้แห้งเกินจนเกิดร้อยร้าวที่เห็นชัดได้ วิธีนี้สำหรับรักษาหยกเก่าที่เราใช้มานานเท่านั้น หากต้องการให้หยกเงาเหมือนใหม่ ส่งให้ช่างเจียระไนฝีมือดีที่ไว้ใจได้ซับเงาให้ก็ดูดีเหมือนใหม่

          โอปอล

โอปอลไม่ใช่หินชนิดแข็ง ไม่ทนต่อความร้อน มีเนื้อปรุและหลวม น้ำสามารถซึมเข้าเนื้อหินได้ การทำความสะอาดจึงต่างกับหินชนิดอื่นๆ

ต้องใช้น้ำสะอาดที่ไม่มีสีชำระล้างแล้วเช็ดแห้งด้วยผ้านุ่มที่สะอาดจึงนำไปเก็บรักษาไว้ 

ถ้าโอปอลเป็นหัวแหวนก็ไม่ควรสวมใส่ไว้ในเวลาล้างมือ ถ้าล้างมือด้วยสบู่ก็ยิ่งไม่ควร เพราะน้ำสบู่หรือน้ำที่ไม่สะอาดจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อหินและจะไม่มีทางชำระออกได้เลย ตามปกติถ้าโอปอลไม่สกปรกมากก็เพียงใช้ผ้านุ่มๆ ที่สะอาดเช็ดบ้างก็พอ หลังจากสวมใส่แล้วหมั่นเช็ดสะอาดทุกครั้ง รักษาให้สะอาดไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องทำความสะอาดด้วยวิธีอื่น 

การเก็บรักษาควรจะเก็บไว้ในที่ที่อุณหภูมิไม่ร้อนจัด ไม่ควรเก็บไว้ตามลิ้นชัก ซึ่งอาจจะต้องเสียดสีกับของแข็งหรือเครื่องแต่งกายชนิดอื่น จะเป็นเหตุทำให้หายความเงางาม วิธีทีดีก็คือ เก็บรักษาไว้ในกล่องที่ปูด้วยผ้านุ่มๆ หรือมีสำลีรองก้นไว้

          ทับทิม แซฟไฟร์ และสตาร์

อัญมณีเหล่านี้เป็นหินมีความแข็งสูงและทนต่อความร้อนได้ดี ตามปกติถ้าไม่สกปรกมากก็ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดให้สะอาดก็เพียงพอ ถ้าสกปรกมากก็ใช้น้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดเครื่องเพชรแช่สัก 1-2 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง เช็ดแห้งก่อนนำไปเก็บรักษา

ถ้าสกปรกเกาะแน่นมากจนแช่ไม่ออก ก็อาจจะใช้แปรงสีฟันแปรงออก

ในระหว่างที่ยังแช่อยู่ในน้ำยานั้น ในการทำความสะอาดควรจะระวังหนามเตยให้ดี ถ้าหลวมก็ต้องจัดการซ่อมให้ดี

         โมรา หยกแข็ง และปะการัง อัญมณีเหล่านี้ไม่ทนต่อความร้อนมาก 

ถ้าไม่สกปรกมากก็ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดสะอาดก็พอ แต่ถ้าสกปรกมากๆก็ใช้น้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดเครื่องเพชรแช่แล้วปล่อยทิ้งไว้  แล้วจึงแช่ล้างหรือแปรงให้สะอาด ต่อไปก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง จึงเช็ดแห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ให้ดี ถ้าไม่มีน้ำยาทำความสะอาดเครื่องเพชร สามารถใช้น้ำยาล้างจานแบบอ่อนแทนได้

          พลอยอื่นๆ

ถ้าเป็นพลอยหินที่ไม่แน่ใจว่าจะทนต่อความร้อนหรือไม่ ใช้ด่างหรือสบู่ได้หรือไม่ ก็ควรจะแช่ล้างในน้ำสะอาดอย่างเดียวก็พอ เมื่อชำระล้างสะอาดแล้วเช็ดแห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ ก่อนนำไปเก็บ

          ข้อควรจำ 

การใช้เพชรพลอยไข่มุก หรือเวลาจะหยิบดู ไม่ควรใช้นิ้วมือหยิบจับ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ 

แต่ถ้าได้จับเม็ดเพชรพลอยหรือไข่มุก ก็ควรจะรีบเช็ดให้สะอาดทันที เพราะเวลาหยิบจับ รอยนิ้วมือจะติดแน่นและจะทำให้ฝ้าหรือหายเงาไปทีละเล็กทีละน้อย นานๆ เข้าก็จะเคลือบติดเป็นม่านสกปรกไว้ชั้นหนึ่ง ทำให้เพชรพลอยไข่มุกไม่สวยเท่าที่ควร ดังที่เราได้เห็นห้างร้านเพชรพลอย เขาจะไม่จับต้องเม็ดเพชรพลอยเลย ถ้าลูกค้าหยิบดู เขาก็ต้องรีบเช็ดให้สะอาดทันที 

ถ้าเป็นเพชรพลอยไข่มุกที่ยังไม่เลี่ยม โดยมากใช้ปากคีบหนีบ ไม่ใช้มือ

          ไข่มุก

การทำความสะอาดไข่มุก ตามปรกติไข่มุกไม่จำเป็นต้องชำระล้างก็ได้ แต่ต้องหมั่นเช็ดให้สะอาดด้วยผ้านุ่มๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะหลังจากการสวมใส่แล้วต้องเช็ดสะอาดให้ทั่วถึงทุก ๆ เม็ด ถ้าเช็ดไม่สะอาด กรดเหงื่อไคล ไขมันจากผิวของผู้ใช้ และน้ำมันใส่ผมก็จะทำให้ไข่มุกเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง และที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ควรให้ไข่มุกตากแดดมาก หรือถูกความร้อนสูง มิฉะนั้น ไข่มุกจะค่อยๆ หมดความเงางาม ส่วนแอลกอฮอล์หรือเหล้าเป็นอันตรายต่อไข่มุกมาก เพราะมันจะทำลายผิวของไข่มุก ทำให้ไข่มุกหมดความเงางามได้รวดเร็ว

ข้อควรทราบ 

ถ้าหากไม่แน่ใจว่าเพชรพลอยนั้นเป็นของแท้หรือไม่ ในการทำความสะอาดจะต้องระวังให้มากถ้าเป็นของเทียมอาจไม่ทนต่อความร้อน แอลกอฮอล์ เหล้า ด่าง หรือสบู่อ่อน เมื่อชำระล้างแล้วก็อาจจะเกิดเสียหายได้ทางที่ดี ควรจะชำระล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดแห้งก็คงจะปลอดภัยดีกว่า

เครื่องประดับอื่น ๆ

สร้อยคอ เข็มกลัด ต่างหูซึ่งทำจากวัสดุหลายชนิดควรดูแลรักษาจัดเก็บดังนี้

1.การใส่กล่องเป็นหมวดหมู่ เช่น กล่องต่างหู กล่องเข็มกลัด เป็นต้น

2. ไม่วางทับกันโดยไม่มีวัสดุหรือผ้าห่อหุ้ม จะทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้

3. เครื่องเงินควรจัดเก็บโดยห่อด้วยพลาสติก เพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยากับอากาศ ส่วนวิธีการทำความสะอาดให้ใช้วิธีเดียวกันกับเข็มขัดเงิน

4. ต่างหู ควรจัดเก็บเป็นคู่ไว้ด้วยกัน อาจจะห่อด้วยสำลี ผ้านุ่ม หรือบรรจุกล่องเฉพาะ

5. สร้อยคอทำความสะอาดโดยใช้ผ้านุ่มเช็ดเบาๆ และควรเก็บในกล่อง เพื่อนป้องกันการขีดข่วน

Visitors: 113,589